ผลลัพธ์ของโปรแกรม

How German Publishers Drove Reader Revenue During the COVID-19 Crisis

3 กรกฎาคม 2020

ผู้เผยแพร่ข่าวในเยอรมนีรับมือกับวิกฤติโควิด-19 โดยการนำเสนอการทำข่าวที่สำคัญๆ ให้ชุมชนของตนได้รับทราบภายใต้สถานการณ์การทำงานที่ยากลำบาก ธุรกิจเกิดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และต้องลดจำนวนพนักงานลง
Frank Unkelbach หัวหน้าแผนกการจัดการด้านดิจิทัลของ Main Echo กล่าวว่า “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเราก็คือการโฆษณาในตำแหน่งการจัดวางต่างๆ ทั้งบนสื่อสิ่งพิมพ์และบนออนไลน์ถูกยกเลิกนี่แหละครับ” พร้อมกล่าวเสริมว่า “เราจึงรับมือโดยการยื่นข้อเสนอลดราคาสูงสุดถึง 50% ในเวลาที่จำกัดเป็นการชั่วคราวเพื่อดึงดูดลูกค้าให้กลับมาลงโฆษณาและโปรโมทข้อเสนอนี้ให้เป็นการริเริ่มของเราและพาร์ทเนอร์ของเราตามเสียงเรียกร้องที่ว่า ‘มาพยายามข้ามผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน’ จนถึงตอนนี้เราพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้และเห็นว่าลูกค้าของเราก็ชื่นชอบวิธีนี้ของเราเช่นกัน”
แต่รายได้จากโฆษณาที่ลดลงนั้นก็สอดคล้องกับการสนับสนุนจากผู้อ่านที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจมากกว่าการสนับสนุนที่ได้รับในช่วงก่อนไวรัสโคโรน่าระบาดถึง 300%
“เช่นเดียวกับผู้เผยแพร่รายอื่นๆ นั่นแหละครับ เราก็ประสบปัญหาที่รายได้จากโฆษณาลดลงในช่วงที่เกิดวิกฤตินี้เหมือนกัน” ดร. Ruth Betz ผู้อำนวยการด้านการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลที่ Funke Mediengruppe กล่าว “ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าเราเปรียบเทียบระหว่าง 60 วันก่อน [การเริ่มระบาดของโควิด-19] กับ 60 วันในช่วง [ไวรัสส่งผลกระทบต่อเยอรมนีร้ายแรงที่สุด] ผู้สมัครรับข้อมูลรายใหม่ในแต่ละวันของเราเพิ่มขึ้น 60% และจำนวนลูกค้าที่เลิกใช้ก็ลดลงอย่างมาก ทำให้เรามีผู้สมัครรับข้อมูลรายใหม่โดยสุทธิเป็น 160% ในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว”
เนื่องจากธุรกิจของผู้เผยแพร่ทั่วโลกเติบโตมากขึ้นและมีการพัฒนาวิธีสร้างรายได้จากผู้อ่านทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เราจึงใช้โพสต์นี้แสดงถึงข้อมูลคร่าวๆ ของบทเรียนและวิธีการต่างๆ จากองค์กรด้านข่าวสารที่ใช้ภาษาเยอรมนีจำนวน 14 รายในโปรแกรม Accelerator ด้านรายได้จากผู้อ่านของ Facebook Journalism Project ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อห้องข่าวแห่งอื่นๆ
จากการวิเคราะห์รายงานการใช้เงินสนับสนุนของผู้เผยแพร่ที่ส่งไปยัง International Center for Journalists ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับโปรแกรม Accelerator ของเรา ทำให้ทราบว่าผู้เผยแพร่ทั้ง 14 รายจากโปรเจ็กต์มอบเงินสนับสนุนของ Accelerator สร้างมูลค่าตลอดอายุการใช้งานรวมกันได้มากกว่า 7.4 ล้านยูโร รวมถึงมีผู้สมัครรับข้อมูลรายใหม่มากกว่า 35,000 ราย และผู้สมัครรับจดหมายข่าวรวมกับการลงทะเบียนบนเว็บไซต์อีกมากกว่า 125,000 ราย ผลลัพธ์เหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากการรวบรวมข้อมูลก่อนโควิด-19 จะระบาด (เราได้อธิบายโครงสร้างของ Accelerator และการมอบเงินสนับสนุนข้างต้นไว้ในส่วนสรุปของบทความนี้แล้ว)
บรรดาผู้เผยแพร่ได้ใช้กลยุทธ์ต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นในช่วงเข้าร่วมโปรแกรม Accelerator เพื่อปรับตัวรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันและกำหนดแผนของตนสำหรับอนาคต ต่อไปนี้คือคำอธิบายการทำงานจากผู้เผยแพร่บางส่วน เพื่อที่บทเรียนจากพวกเขาอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของห้องข่าวรายอื่นไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วด้วยทีมข้ามแผนก และการหมั่นให้ความสำคัญกับการช่วยให้ผู้อ่านดำเนินการตามเส้นทางการคอนเวอร์ชั่นของตนเพื่อกลายเป็นผู้สมัครรับข้อมูลที่ยินดีชำระเงิน
เพิ่มผลลัพธ์ด้วยทีมข้ามแผนก
วิกฤติโคโรน่าไวรัสส่งผลกระทบต่อบริษัทด้านสื่อในเยอรมนีในทุกๆ ด้าน รวมถึงทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานด้านบรรณาธิการ ลำดับความสำคัญในการรายงานข่าว และผสมผสานแผนทางการตลาดหลายๆ แผน ผู้เผยแพร่ที่สามารถเพิ่มจำนวนการสมัครรับข้อมูลให้ธุรกิจของตนได้อย่างรวดเร็วล้วนได้รับความช่วยเหลือจากทีมที่นำข้อมูลจากสถานีเผยแพร่สื่อ, บทบรรณาธิการการรวม, การวิเคราะห์, การตลาด, สินค้า และโซเชียลมีเดียมารวมกันให้กลายเป็นชิ้นงานโฆษณาและเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด
Betz จาก Funke Mediengruppe กล่าวว่า “โปรแกรม Accelerator ทำให้วิธีคิดของเราและวิธีการทำงานร่วมกันของเราเปลี่ยนไป ทุกวันนี้กลุ่ม Accelerator ของเราก็ยังคงมีการติดต่อสื่อสารและร่วมมือกันอยู่ตลอดเหมือนที่เราทำกันในช่วงเข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าว”
Funke ได้ใช้บทเรียนของ Accelerator ในการดึงดูดผู้สมัครรับข้อมูลที่ยินดีชำระเงินรายใหม่ 27,000 รายโดยมากกว่าเป้าหมายที่กำหนดงบประมาณไว้ เป็นผลมาจากการพยายามอย่างหนักของทีมข้ามแผนกในการทำเรื่องง่ายๆ อย่างการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อเพิ่มจำนวนผู้สมัครรับข้อมูลให้มากขึ้นเป็นประจำทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่ช่วงก่อนที่โควิด-19 จะระบาด ความสำเร็จของ Funke ที่เราจะเจาะลึกในอีกไม่นานนี้ แสดงให้เห็นว่าทีมข้ามแผนกสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก
ซึ่งผู้เผยแพร่รายอื่นๆ ใน Accelerator ต่างก็เห็นด้วย
Thomas Webel หัวหน้าแผนกดิจิทัลของ Oberpfalz Medien กล่าวว่า “เราจะต้องทลายกำแพงลง เราจึงตั้งกลุ่มสำหรับการทำงานข้ามแผนกขึ้นมา และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาการทำงานร่วมกับแผนกอื่นที่ไม่ใช่หน้างานเดิมๆ ก็กลายมาเป็นเรื่องปกติ”
ในช่วงโปรแกรม Accelerator ผู้เผยแพร่ที่เข้าร่วมแต่ละรายได้พบปะกับทีมข้ามแผนกและโค้ชสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยหลังจากสิ้นสุดโปรแกรมหลายทีมก็ยังคงพบปะและร่วมงานกันต่อโดยไม่ไม่ต้องมีโค้ชมาคอยช่วย หากต้องการโปรโมทการทำงานร่วมกันแบบสหวิทยาการนี้ภายในโครงสร้างที่โดยปกติแล้วได้รับแนวโน้มจากการทำงานตามแบบแผนเดิมๆ อย่างมาก การกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน แจ้งการปรับเปลี่ยนเป้าหมายดังกล่าวให้ชัดเจน และจูงใจให้ทีมทำตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ข้างต้น
ซึ่งเป้าหมายด้านการทำงานข้ามแผนกก็เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดความร่วมมือใน Nürnberger Nachrichten ด้วยเช่นกัน Barbara Zinecker หัวหน้าแผนกการพัฒนากลุ่มเป้าหมายของ Nürnberger Nachrichten กล่าวว่า “เราภูมิใจมากที่ตอนนี้พนักงานของเรา (จากทุกๆ แผนก) หันมาร่วมมือกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทำให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนการสมัครสมาชิกทางดิจิทัล”
เริ่มจากสิ่งที่มีแล้วพัฒนาต่อ (อย่างรวดเร็ว)! *
การที่บริษัทใช้วิธีการทำงานแบบร่วมกันเป็นประจำอยู่แล้วจะช่วยให้ทีมข้ามแผนกดำเนินการปรับเปลี่ยนได้เร็วขึ้น ซึ่งพวกเขาเคยทำมาแล้วในช่วงเดือนมีนาคมที่เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลกของโควิด-19 ในเยอรมนี
Zinecker จาก Nürnberger Nachrichten กล่าวว่า "คุณควรจะเริ่มจากสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว” และกล่าวเสริมว่า “ในโปรแกรม Accelerator เราได้เรียนรู้ที่จะลดการให้ความสำคัญกับสิ่งที่ขาดหายไป และให้ความสนใจกับความเป็นไปได้ของเราอย่างเต็มที่แทน"
Zinecker กล่าวว่าเพราะการทำงานร่วมกันแบบนี้นี่เองที่ทำให้เพื่อนร่วมงานของตนจากโปรแกรม Accelerator ในเมืองนูเรมเบิร์กได้รับยอดขายจริงเพิ่มขึ้น แผนกบรรณาธิการและการขายได้ร่วมกันเตรียมการข้อเสนอสำหรับการสมัครรับข้อมูลของ Nürnberger Nachrichten (การสมัครรับข้อมูลแบบสื่อสิ่งพิมพ์และแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์) อย่างรวดเร็ว เพื่อใช้เป็นการโฆษณาที่เห็นได้อย่างชัดเจนในส่วนของบทความที่เกี่ยวข้องกับโคโรน่าไวรัส Zinecker บอกว่า “การดำเนินการดังกล่าวทำให้เราได้รับยอดการสมัครรับข้อมูลจากผลิตภัณฑ์ที่ต้องชำระเงินเพิ่มขึ้น 20-30% และอัตราลูกค้าที่เลิกใช้ก็ดีขึ้น 10%”
นอกจากนี้การทำงานร่วมกันข้ามแผนกยังเปิดโอกาสให้ผู้เผยแพร่ได้เริ่มโครงการริเริ่มใหม่ๆ ทางด้านบรรณาธิการโดยมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่เหนียวแน่นที่มีต่อสื่อเผยแพร่ให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
Lena Beneke บรรณาธิการของ Ruhr Nachrichten (Lensing Media) กล่าวว่า “เราคิดในมุมมองของลูกค้ามากขึ้น เช่น ลูกค้าต้องการอะไรจากเรา ในช่วงวิกฤติที่เกิดขึ้นนี้ นักข่าวของเราได้ทำตัวให้คุ้นเคยและยินดีที่จะใช้รูปแบบใหม่ๆ เช่น พ็อดคาสต์และวิดีโอ” “การเผยแพร่เนื้อหาประเภทนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และดูเหมือนว่าผู้อ่านของเราจะชื่นชอบไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ”
ใส่ใจกับการวางแผนการดำเนินการขั้นต่อไปของกลุ่มเป้าหมายคุณ
พฤติกรรมส่งเสริมที่พบบ่อยในผู้เผยแพร่จาก Accelerator คือมุ่งเป้าในการทำให้ผู้อ่านสร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์ใหม่ของคุณให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งพฤติกรรมนี้เพื่อทำให้แน่ใจว่าคุณมี “กลยุทธ์ +1” ตามวิธีการที่ผู้นำและโค้ชจากโปรแกรม Accelerator อย่าง Yasmin Namini ได้สอนไว้ ซึ่งผู้เผยแพร่มักจะคำนึงถึงวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างผู้อ่านกับแบรนด์ของตนผ่านการแนะนำเนื้อหา, การสมัครรับอีเมล, ข้อความแจ้งการลงทะเบียน และแม้แต่ข้อเสนอการสมัครรับข้อมูลก็ตามที
Betz จาก Funke กล่าวว่า "เราคิดว่ากลยุทธ์ +1 เหมาะมาก ดังนั้นเราจึงรีบแชร์ให้เพื่อนร่วมงานของเราได้ทราบโดยทั่วกัน เราได้แบ่งวิธีการแบบทีละขั้นตอนและรายการสิ่งที่ต้องทำสำหรับแต่ละแผนกออกเป็นข้อๆ รวมถึงการเปิดใช้จดหมายข่าวของเราด้วย”
Julia Morein หัวหน้าแผนกการสมัครรับข้อมูลจาก Rheinische Post กล่าวว่า “การเปลี่ยนผู้ที่เข้ามาชมเพียงชั่วครู่ให้กลายเป็นผู้อ่านที่เหนียวแน่นและการมัดใจให้ผู้สมัครรับข้อมูลใช้งานต่อเป็นสองประเด็นที่พวกเราพยายามกันอยู่ในตอนนี้ค่ะ”
เราต้องโพสต์เนื้อหาที่ไม่ได้ล็อกไว้ (เนื้อหาที่เข้าอ่านได้ฟรี) มากแค่ไหนถึงจะเพียงพอต่อการดึงดูดให้ผู้ใช้สมัครรับข้อมูล โดยต้องไม่มากเกินไปจนทำให้พวกเขาคิดว่าสามารถเข้าถึงทุกเรื่องที่ต้องการได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย ข้อความดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้เผยแพร่ต้องพยายามหาคำตอบเพื่อให้ทราบถึงวิธีในการเปลี่ยนผู้อ่านจากเดิมที่เป็นผู้อ่านทั่วไปให้กลายเป็นผู้อ่านที่ลงทะเบียนหรือผู้อ่านที่ยินดีชำระเงิน การทำตามกลยุทธ์ต่างๆ ข้างต้นนั้น เราไม่มีกฎตายตัวหรือทางลัดสำหรับวิธีเลือกเนื้อหาเพื่อ “ล็อกไว้” หลังเพย์วอลล์ของผู้เผยแพร่ บรรดาผู้เผยแพร่ที่ได้รับผลตอบแทนมากที่สุดจากกลยุทธ์ของตนต่างก็อยากจะปรับแต่งวิธีของตนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะพบวิธีที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์ที่ตนต้องการในตลาดที่กำหนด (พร้อมทั้งเฝ้าติดตามและดำเนินการทดสอบอย่างต่อเนื่อง)
ดร. Christoph Rybarczyk รองหัวหน้าแผนกออนไลน์ของ Hamburger Abendblatt ได้กล่าวไว้ว่า เนื้อหาที่จะเปลี่ยนผู้ใช้ให้เป็นผู้สมัครรับข้อมูลที่ยินดีชำระเงินได้มักจะทำให้คุณแปลกใจอยู่เสมอ วันนี้อาจจะเป็นข่าวด่วน แต่วันพรุ่งนี้อาจจะเป็นการรายงานสถานภาพทางการเงินก็ได้ แม้แต่กับเกณฑ์ชี้วัดขั้นสูงก็ไม่เว้น
อย่างไรก็ตาม การหมั่นวิเคราะห์เนื้อหาของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาว่าปัจจัยใดที่กระตุ้นคอนเวอร์ชั่น จะช่วยให้คุณทราบถึงแนวทางในการทำการตลาดและแก้ไขบทความได้
Kai Gohlke รองบรรณาธิการใหญ่ของ Oberpfalz Medien กล่าวว่า “เราเชื่อว่าการลองและเลือกบทความที่เขียนไว้แล้วหรือแม้แต่ที่ตีพิมพ์แล้วให้มาเป็นบทความที่ต้องชำระเงินเป็นวิธีที่ผิด ห้องข้าวจะต้อง ‘คิดเผื่อ’ ไว้เสมอทุกครั้งที่วางแผนลงบทความ ก่อนที่จะจัดวางองค์ประกอบต่างๆ (ผู้รายงานข่าว วิดีโอ ฯลฯ) ลงในบทความ”
Gohlke ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า “เราได้คิดหาเกณฑ์สำหรับบทความที่คิดเผื่อไว้ โดยอิงจากประสบการณ์ของผู้เผยแพร่รายอื่นๆ (ส่วนใหญ่จากโปรแกรม Accelerator) ที่เราจะนำมาเปรียบเทียบกับ KPI ที่ใช้อยู่เป็นประจำของเราเอง” “เราได้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนในห้องข่าวจะทราบถึงเกณฑ์เหล่านั้น รวมถึงกำหนดแท็กที่คิดเผื่อไว้บนสตอรี่ที่คิดเผื่อไว้ด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่มีผู้ไม่แน่ใจว่าประเด็นหรือบทความใดๆ เป็นส่วนที่ “คิดเผื่อ” ไว้หรือไม่ บุคคลดังกล่าวสามารถโพสต์ลงในช่องทางพิเศษบน Slack ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เราใช้ในการพูดคุยปรึกษากันได้”
ข้อได้เปรียบจากการมีวิธีการที่เป็นระบบมากขึ้นสำหรับเนื้อหาที่ล็อกไว้มีดังตัวอย่างต่อไปนี้ Thomas Webel หัวหน้าแผนกดิจิทัลของ Der neue Tag กล่าวว่า Der neue Tag ของ Oberpfalz Medien มีผู้อ่านที่รู้จักมากขึ้นเป็น 3 เท่า โดยจำนวนการสมัครรับข้อมูลจดหมายข่าวหรือการลงทะเบียนในเว็บไซต์ที่เพิ่มเป็นสามเท่าพุ่งสูงถึง 30,000 รายภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
จดหมายข่าวมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากลุ่มเป้าหมาย
หลายสัปดาห์ก่อนที่โควิด-19 จะระบาด Der neue Tag ได้นำหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับอีเมลจากโปรแกรม Accelerator มาใช้และเปิดตัวจดหมายข่าว 2 รายการ โดยหลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ทั่วโลกดังกล่าว พวกเขาก็สร้างจดหมายข่าวเพิ่มเติมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโึโรน่าไวรัสโดยเฉพาะขึ้นทันที
Webel จาก Oberpfalz กล่าวว่า “เรามีผู้สมัครรับจดหมายข่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 4,000 รายภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน”
ทีมดังกล่าวพยายามจัดการคอนเซ็ปต์ของจดหมายข่าวนี้เพื่อเปลี่ยนจากสิ่งที่ได้รับความนิยมเพียงครั้งเดียวให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ‘Der neue Tag’ ยังพยายามองหาผู้รับจดหมายข่าวของตนที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนมาเป็นผู้สมัครรับข้อมูลที่ยินดีชำระเงินอีกด้วย เช่นเดียวกับที่ทีมของ Nürnberger Nachrichten ทำ ซึ่งข้อสันนิษฐานหนึ่งที่ Funke สามารถยืนยันแล้วก็คือ หลังจากเพียงไม่กี่เดือน ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวได้ให้บริการจดหมายข่าวมากกว่า 20 รายการ (ตามแบรนด์ต่างๆ, ประเด็นต่างๆ, ภูมิภาคต่างๆ และที่เกี่ยวกับโควิด) ซึ่งผู้รับจดหมายข่าวสามารถเปลี่ยนเป็นการสมัครรับข้อมูลแบบชำระเงินได้ง่ายกว่าผู้ใช้รายอื่นๆ ในพอร์ทัลดังกล่าวอย่างเห็นได้ชัด และทีมดังกล่าวยังหวังอีกด้วยว่าจะกลุ่มผู้ใช้นี้จะมีอัตราการเลิกใช้ที่ต่ำลง แต่ทว่าการเก็บข้อมูลในส่วนนี้ก็ยังถือว่าเร็วเกินไป
Betz กล่าวว่า “เราได้จัดตั้งหน่วยสหวิทยาการเพื่อยกระดับแผนจดหมายข่าวสำหรับทั่วทั้งบริษัทของเรา โดยประสบความสำเร็จในทันทีที่เราจ้างพนักงานประจำรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย”
และอย่ากลัวที่จะลองกำหนดราคาอย่างสร้างสรรค์
ในช่วงที่วิกฤติโควิด-19 ระบาดในช่วงแรก Main-Echo และ Straubinger Tagblatt ผู้เผยแพร่ 2 รายจากผู้เผยแพร่รายอื่นๆ มากมายทั่วโลก ต่างก็ได้ตัดสินใจเปิดให้ผู้คนเข้าถึงเนื้อหาของตนได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่ใช้วิธีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
Straubinger ได้อนุญาตให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเนื้อหาของตนได้ทุกรายการทำให้ยอดการลงทะเบียนในเว็บไซต์เพิ่มขึ้นมากกว่า 11,000 รายการ ซึ่งเป็นการสร้างฐานผู้อ่านสำหรับการดำเนินการด้านการสมัครรับข้อมูลในอนาคต
Andreas Seidl บรรณาธิการการจัดการของผู้เผยแพร่ดังกล่าวบอกว่า “เราตัดสินใจว่าช่วงเวลาที่พิเศษเช่นนี้จำเป็นต้องใช้มาตรการที่พิเศษด้วย ดังนั้นเราจึงเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าอ่านเนื้อหาระดับพรีเมียมของเราได้ฟรีหลังจากลงทะเบียน” การเติบโตของ Straubinger ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดอย่างหนักส่งผลให้จำนวนการลงทะเบียนในปี 2019 เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จากข้อมูลที่ Seidl บอกทำให้เราทราบว่าในปลายไตรมาสที่สองของปี 2020 มีผู้ลงทะเบียนใช้งานตัวเลือกระดับพรีเมียมของผู้เผยแพร่ idowa.plus มากกว่า 38,000 ราย
ส่วน Main Echo ก็ได้ยื่นข้อเสนอพิเศษที่ไม่เรียกเก็บค่าบริการจากผู้อ่านเป็นเวลาเกือบ 6 สัปดาห์ทำให้พวกเขามีผู้สมัครรับข้อมูลรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 500 ราย ซึ่งมากจนเกือบจะเท่ากับจำนวนผู้สมัครรับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีก่อนหน้าเลยทีเดียว
Unkelbach หัวหน้าแผนกการจัดการของ Main Echo กล่าวว่า “เราดีใจมากที่ทราบว่าผู้สมัครรับข้อมูลของเรามีแนวโน้มการเลิกใช้น้อยกว่าที่เราคาดการณ์ไว้” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันนี้หลังจากผ่านการชำระเงินเดือนแรกไปแล้ว เราพบว่าอัตราการใช้งานต่อเนื่องยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเหตุนี้เองทำให้เราเชื่อว่าเราสามารถคาดหวังว่าจะมัดใจให้ผู้สมัครรับข้อมูลที่ยินดีชำระเงินจำนวน 50% ใช้งานต่ออย่างถาวรได้ นอกจากนี้ เรายังพบว่ารายได้จากการสมัครรับข้อมูลทั่วไปของเรามีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอในระดับที่สูงกว่าปีที่ผ่านมาอีกด้วย”
แล้วจะเป็นยังไงต่อล่ะ คุณจะมัดใจผู้สมัครรับข้อมูลรายใหม่ได้อย่างไร
ผู้เผยแพร่ทั่วโลกและผู้เผยแพร่ที่กล่าวไปข้างต้นต่างก็เปลี่ยนมาให้ความสนใจวิธีการมัดใจผู้อ่านที่ยินดีชำระเงินรายใหม่ของตนให้ใช้งานต่อไปอย่างยาวนานหลังจากวิกฤติครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว เราได้วิเคราะห์เจาะลึกกลยุทธ์เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องของผู้เผยแพร่จากโปรแกรม Accelerator ไว้ที่นี่แล้ว
เกี่ยวกับโปรแกรม Accelerator ด้านรายได้จากผู้อ่าน
ในปี 2019 ผู้เผยแพร่จากทั้งในเมืองและตามภูมิภาคต่างๆ ที่ใช้ภาษาเยอรมัน 14 รายได้เข้าร่วมโปรแกรม Accelerator ด้านรายได้จากผู้อ่าน
โดยพวกเขาต่างก็เป็นตัวแทนจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วเยอรมนีและ 1 รายที่มาจากออสเตรียซึ่งมียอดจำหน่ายตั้งแต่น้อยกว่า 50,000 ไปจนถึงมากกว่า 250,000 รายชื่อผู้เผยแพร่ข่าวดังกล่าวได้แก่ (ตามลำดับตัวอักษร) Augsburger Allgemeine, Der neue Tag, DuMont, Frankfurter Rundschau, Funke (Hamburger Abendblatt และ WAZ), InFranken, Ruhr Nachrichten, Main-Echo, Main-Post, Nürnberger Nachrichten, Rheinische Post, Ruhr Nachrichten, Straubinger Tagblatt และ Stuttgarter Zeitung
โปรแกรมดังกล่าวประกอบด้วยการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลา 3 เดือนไม่ว่าจะเป็น การรวมตัวพบปะกันโดยตรง 3 ครั้ง การทำงานแบบตัวต่อตัวร่วมกับโค้ชเฉพาะทาง และการปรึกษาหารือกันทางออนไลน์
ห้องข่าวแต่ละแห่งได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 50,000 ยูโรเพื่อนำบทเรียนที่ได้จากโปรแกรมไปปฏิบัติจริง เงินสนับสนุนมาจาก Facebook Journalism Project ผ่านการจัดการโดย International Center for Journalists ซึ่งร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Facebook ในการจัดโปรแกรม
การเขียนโปรแกรมและการโค้ชต่างๆ ในโปรแกรมนี้นำโดย Tim Griggs ที่ปรึกษาและผู้ให้คำแนะนำอิสระ รวมถึงอดีตพนักงาน The New York Times และ The Texas Tribune โปรแกรม Accelerator ในเยอรมนีนำโดย Yasmin Namini ที่ปรึกษาด้านสื่อดิจิทัล และอดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านผู้บริโภคและรองประธานอาวุโสประจำ New York Times ส่วนโค้ชได้แก่ Ray Pearce ที่ปรึกษาด้านสื่อข่าวดิจิทัลและ Lynne Brennen ผู้นำด้านการตลาดและพาร์ทเนอร์ประจำ Red Root Marketing
การรับมือกับการระบาดใหญ่ทั่วโลกของไวรัสโคโรน่าอย่างมีประสิทธิภาพของผู้เผยแพร่หลายรายเป็นผลมาจากการพัฒนาธุรกิจที่ได้ดำเนินงานไว้ในช่วงเข้าร่วมโปรแกรม Accelerator ซึ่งในช่วงที่เข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าว กลุ่มนี้ได้พัฒนาธุรกิจของพวกเขาขึ้นผ่านการผสมผสานระหว่างการโค้ชแบบตัวต่อตัว การรวมตัวพบปะกันโดยตรง และการแชร์ข้อมูลระหว่างเพื่อนร่วมงาน เมื่อโปรแกรมดังกล่าวสิ้นสุดลง ผู้เผยแพร่แต่ละรายได้รับเงินสนับสนุนสำหรับนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากโปรแกรม Accelerator ไปใช้งานจริง
ผู้เผยแพร่ที่เข้าร่วมได้ร่วมกันประชุมทางออนไลน์เพื่อแชร์บทเรียนที่ได้เรียนรู้มาจากโปรแกรมมอบเงินสนับสนุนพร้อมด้วยประสบการณ์ของตนที่ต้องรับมือกับโควิด-19 ในวันที่ 23 และ 24 เดือนมิถุนายน และบรรดาโค้ชจาก Accelerator ได้มอบข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการทำการตลาดในช่วงการประชุมทางออนไลน์ครั้งนั้นด้วย
หากต้องการติดต่อผู้เผยแพร่รายใดก็ตามในบทความนี้หรือหากมีคำถามใดๆ โปรดส่งอีเมลมาที่ Accelerator@FB.com เรายินดีที่จะช่วยคุณเชื่อมต่อคุณเข้ากับผู้อื่นที่กำลังพยายามอย่างสุดความสามารถในการดูแลรักษาอนาคตของการรายงานข่าวท้องถิ่น
ข้อมูลผลลัพธ์ได้มาจากผู้เผยแพร่


โปรแกรม Accelerator
โปรแกรม Accelerator ของ Facebook Journalism Project ช่วยให้ผู้เผยแพร่ข่าวสร้างธุรกิจที่มั่นคงยั่งยืน โปรแกรม Accelerator ได้รับการสนับสนุนเงินทุนและจัดขึ้นโดย Facebook Journalism Project (FJP) โดยในโปรแกรม Accelerator แต่ละแบบคุณจะได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการระยะเวลา 3 เดือนซึ่งนำโดยผู้มากประสบการณ์ในวงการข่าว รับเงินสนับสนุนซึ่งได้รับการดูแลโดยองค์กรสื่อไม่แสวงผลกำไร และรับรายงานหลักปฏิบัติทางธุรกิจที่ดีที่สุดเป็นประจำ กรรมการบริหารของโปรแกรม Accelerator คือ Tim Griggs ผู้เป็นที่ปรึกษา/ผู้ให้คำแนะนำอิสระ และยังเป็นอดีตผู้บริหารของ New York Times และ Texas Tribune อีกด้วย

หากต้องการข่าวสารอัพเดตรายเดือนเกี่ยวกับโปรแกรม Accelerator โปรดสมัครรับจดหมายข่าว FJP
คำแนะนำ
คุณคิดว่าเนื้อหานี้มีประโยชน์หรือไม่
คำแนะนำ
ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ

เรื่องราวเพิ่มเติม

/5

ติดตามเรา

Meta Journalism Project เป็นโครงการที่ทำงานร่วมกับผู้เผยแพร่จากรอบโลกเพื่อเสริมสร้างการเชื่อมต่อระหว่างนักข่าวและชุมชนที่นำเสนอข่าวให้มีความเหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยจัดการกับความท้าทายหลักของธุรกิจในวงการข่าวผ่านการฝึกอบรม โปรแกรมต่างๆ และการเป็นพาร์ทเนอร์